วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ทัศนคติหลังฝึกงานคลินิกทางกายภาพบำบัด 3

 ทัศนคติหลังฝึกงานคลินิกทางกายภาพบำบัด 3



               การฝึกงาน คือ การเตรียมความพร้อมและการเตรียมตัวสำหรับการก้าวย่างเข้าไปสู่ชีวิตของการทำงานที่แท้จริง คำว่า "เหนื่อย" จึงเป็นเรื่องที่ common มากที่ได้พบเจอ แต่ทว่า คำๆเดียวนี้ได้สอนให้ตัวผมเองรู้จักคุณค่าของกาลเวลา เปรียบเสมือนสายธาราน้ำที่ไหลผ่านมาและไหลผ่านไป จึงต้องมีการจัดการกับชีวิตให้มีระบบและระเบียบซึ่งเป็นวินัยของตนเองสำหรับการเตรียมพร้อมไปสู่วันใหม่ๆต่อไป ทั้งนี้จะได้เพลากับความเหนื่อยของแต่ละวันโดยที่ไม่ต้องได้มาโทษคนเองในภายหลังว่าทำไมไม่ทำตั้งแต่แรก
               จากการฝึกงานที่ผ่านมาทำให้ได้รู้ซึ้งในรสชาดของวิชาชีพกายภาพบำบัดมากมาย เพราะเป็นวิชาชีพที่ต้องได้เข้าใกล้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมากในการให้การรักษา
               รสชม : เปรียบได้กับช่วงแรกของการเข้าหาผู้ป่วย ที่ต้องทำหน้าพะอืดพะอมกล้าๆกลัวๆที่จะเดินเข้าไปให้การรักษา
               รสเปรี้ยว : คือความท้าทายในการวินิจฉัยโรคและวิเคราะห์วางแผนการรักษา ซึ่งยังรวมไปถึงกลเม็ดที่ต้องคิดออกมาในการที่จะทำให้ผู้ป่วยให้ความร่วมมือในการรักษา
               รสเค็ม : คืดความเหนื่อยยากที่ต้องใช้พลังกายของตนเองมาช่วยรักษาผู้ป่วยจนหยาดเหงื่อไหลรินหลั่งออกมายิ่งกว่าสายฝน
               รสหวาน : คือความชุ่มฉ่ำชื่นใจและปลาบปลื้มปิติ เมื่อได้เห็นผู้ป่วยหายจากโรคและความทุกข์ทรมานที่เขาได้รับด้วยหนึ่งสมองกับสองมือที่พ่อแม่มอบให้ผมมา จึงได้อธิษฐานไว้ว่า ผลบุญที่เกิดจากการช่วยเหลือรักษาผู้ป่วยให้หายจากโรคทุกราย ขอยกให้กับเจ้ากรรมนายเวรของพ่อแม่ผม จักได้เป็นอานิสงค์ให้พ่อแม่ผมมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับผมและน้องไปนานๆ
               อย่างไรก็ตาม การเดินทางบนเส้นทางกายภาพบำบัดยังมีสิ่งที่ให้ผมได้ผจญภัยและเก็บเกี่ยวไขว่คว้าประสบการณ์ที่ลอยเหนืออยู่เบื้องหน้า เพื่อที่สักวันเมื่อปีกแห่งความรู้ของผมแข็งแกร่งแล้ว จะได้บินโผโลดแล่นไปสู้โลกของการทำงานที่แท้จริงด้วยความสง่างามและความภาคภูมิใจว่านี่แหละครับ คือ ทายาทวิชาชีพกายภาพบำบัด



21 กุมภาพันธ์ 2553

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น